วันจันทร์ที่ 5 กันยายน พ.ศ. 2554

ทางลัดไปสู่พระนิพพาน?

ถาม : ทางลัดไปสู่พระนิพพาน?
ตอบ: ทางลัดไม่มีจ้ะ การปฏิบัติทุกอย่างทางตรงสั้นที่สุด คือจับอารมณ์พระโสดาบันไปเลย อันดับแรกต้องเคารพพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์จริงๆ อันดับที่สอง รักษาศีลทุกข้อให้บริสุทธิ์ อันดับที่สามตั้งใจเสมอว่าตายแล้วจะไปนิพพาน
คราวนี้การที่เราเคารพพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ รักษาศีลให้บริสุทธิ์ ตั้งใจว่าตายแล้วจะไปนิพพาน ต้องมีสมาธิควบอยู่ถึงจะทรงตัว ดังนั้น เราจะทิ้งอาณาปานสติ คือการนึกถึงลมหายใจเข้าออกไม่ได้ ต้องนึกอยู่เสมอเสร็จแล้วก็ทวนศีลอยู่ทุกวัน ศีลทุกข้อของเราวันนี้บริสุทธิ์ไหม ? อันไหนบกพร่องพรุ่งนี้เราต้องแก้ไขให้มันดีกว่าเดิม อันไหนดีอยู่แล้ว พรุ่งนี้เราจะทำให้ดียิ่งกว่านี้ ศีลทุกข้ออย่าละเมิดด้วยตัวเอง อย่ายุให้คนอื่นเขาทำ อย่ายินดีเมื่อคนอื่นเขาทำ ต้องทวนอยู่อย่างนี้ตลอดทุกวัน
ถาม : คำว่า นิพพาน นึกถึงพระพุทธเจ้า ??
ตอบ: เอาแค่นั้นล่ะจ้ะ ตั้งใจว่านั่นคือพระพุทธเจ้าพระพุทธเจ้าไม่อยู่ที่ ไหน นอกจากบนพระนิพพาน เราเห็นท่านคืออยู่กับท่าน เราอยู่กับท่านคือเราอยู่บนนิพพาน เอาแค่นั้นพอ คิดว่าเราตาย เราก็ขอไปอยู่กับท่านตรงนั้น ถึงไม่เห็นเลยก็ไม่ เป็นไร ให้มั่นใจว่านิพพานอยู่ที่ไหน เราจะไปที่นั่นก็ใช้ได้เหมือนกัน เพราะ ฉะนั้นการปฏิบัติทางลัดไม่มีนะจ๊ะ มีแต่ทางตรง ซึ่งสั้นที่สุด ลองไปลัดดูสิ ทางลัดทางไหนก็ตามมันอ้อมทั้งนั้นแหละ
สนทนากับพระเล็ก สุธมฺมปญฺโญ 
เดือนมกราคม ๒๕๔๗(ต่อ) 

ณ บ้านอนุสาวรีย์ฯ

การเข้าพระนิพพานในวิธีที่ง่ายที่สุด ลัดตัดตรงที่สุด
โดย…หลวงพ่อพระราชพรหมยาน

สำหรับการ ที่จะเข้าพระนิพพานนั้น…
จิตจะต้องถูกฝึกมาแล้วเป็นอย่างดี ซึ่งก็แยกย่อยออกไปได้หลายวิธี…
แต่วิธีที่ง่ายที่สุด ลัดตัดตรงที่สุด คือ…
1. ไม่สงสัย เชื่อมั่น และเคารพ
พระรัตนตรัยเป็นที่พึ่งสูงสุด (สุดจิตสุดใจ) ตลอดชีวิต
… ซึ่งความเชื่อนี้ รวมไปถึงพระธรรมคำสอนในข้อที่ว่า…
นิพพานัง ปรมัง สุขัง… 
*พระนิพพานเป็นสุขอย่างยิ่ง*

นิพพานัง ปรมัง สูญญัง…
*พระนิพพานเป็นที่ที่สูญจากกิเลส จากอวิชชาทั้งมวล*
จาก พระธรรมทั้ง ๒ ประโยคนี้… 
ทำให้เราเชื่อมั่นได้ว่า พระนิพพานเป็นสถานที่ที่มีอยู่จริง 
ซึ่งองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าท่านประทับอยู่จริง… 
เมื่อเราเชื่อมั่นอย่างสุดจิตสุดใจ ว่า พระนิพพานมีจริง 
องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้ามีพระองค์อยู่จริง… 
การที่เราจะได้มโนมยิทธิหรือไม่ นั้น… ไม่ใช่สิ่งที่สำคัญที่สุด…
สิ่งที่สำคัญที่สุด นั่นคือ ความเชื่อมั่น… 
เชื่อมั่นว่าพระนิพพานมีอยู่จริง… 
องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าท่านมีอยู่ จริง… 
พระองค์ ทรงเป็นผู้ที่ประทับอยู่บนพระนิพพานจริง… 
เมื่อเชื่อมั่นในสิ่งเหล่านี้แล้ว… 
ให้ลงมือปฏิบัติตามพระธรรมคำสั่งสอน ที่พระองค์ท่านทรงชี้แนะเอาไว้…
สิ่งนั้นคือ ขั้นตอนต่างๆ ที่ลัดที่สุด เร็วที่สุด ตัดตรงที่สุด ซึ่งมีดังนี้…
2. มีศีล 5 (เป็นอย่างน้อย)
หลวงพ่อฤาษีสอนทางลัดไปนิพพาน
3. ทุกครั้งที่ทำความดี

(ไม่ว่าจะเล็กน้อยเพียงใด หรือยิ่งใหญ่เพียงไหนก็ตาม)

ให้อธิษฐานขอไปพระนิพพาน
ว่า…ด้วยกุศลผลบุญนี้ ขอจงเป็นปัจจัยให้ข้าพเจ้าเข้าสู่พระนิพพานในชาติปัจจุบันนี้ด้วยเถิด
… ภพภูมิอื่นใด ไม่ว่าจะเป็น อบายภูมิ โลกมนุษย์ สวรรค์ พรหม หรืออรูปพรหมก็ตาม ข้าพเจ้าไม่ปรารถนา…ข้าพเจ้าปรารถนาเพียงพระนิพพานเป็นที่สุด..ตายเมื่อ ไหร่ขอไปพระนิพพานเมื่อนั้น..
4. พิจารณานึกถึงความตายอยู่เสมอ
พร้อมกับพิจารณาให้เห็นว่าสังขารร่างกายนี้ไม่ใช่ เรา ไม่ใช่ของๆ เรา 
เราไม่มีในสังขาร ร่างกายนี้ สังขารร่างกายนี้ไม่มีในเรา… 

นึกน้อมพิจารณาจนจิตยอมรับสภาพตามความเป็นจริง… และมีการปล่อยวางในสังขารร่างกายนี้
5. พิจารณาตัดขันธ์ 5
และพิจารณาถึงความทุกข์ ความไม่เที่ยงของสรรพสิ่งต่างๆ
อยู่เสมอ…
เมื่อทุกข์ขนาดนี้แล้ว มีแต่โรคภัยไข้เจ็บแบบนี้ 
ต้องกระทบกระทั่งกับสิ่งที่ไม่ชอบใจ ไม่พอใจทั้งหลาย 

ต้องพลัดพรากจากคนที่ เรารักและคนที่รักเรา… สิ่งเหล่านี้มันทุกข์ใช่ไหม… 

เมื่อทุกข์ขนาดนี้แล้วเรายังอยากที่จะเวียนว่ายตายเกิดอีกหรือไม่
6. เมื่อพบความจริงของชีวิตแล้ว… ต่อมา
ให้จิตเชื่อมั่น และ
จับภาพพระพุทธเจ้า หรือ ภาพพระพุทธรูป
ที่เราร้กชอบ
สมเด็จองค์ปฐม
สมเด็จองค์ปฐมที่พระนิพพานซึ่งเป็นที่ประทับแห่งองค์สมเด็จพระผู้มีพระ ภาคเจ้าเป็นที่สุด…
(ไม่ว่าเราจะได้ มโนมยิทธิหรือไม่ก็ตาม)
… หมั่นทำความดี ละเว้นความชั่ว และอธิษฐานให้บ่อยๆ ทำจนจิตชิน 

จนเขาภาวนาของเขาเองได้ยิ่งดี ว่า…
 
สังขารร่างกายนี้เป็นทุกข์ เป็นรังของโรค มีแต่ความสกปรกโสโครก น่าเบื่อหน่าย
 
… ถ้าข้าพเจ้าตายลงเมื่อไหร่ 

ขอให้ดวงจิต ของข้าพเจ้าพุ่งตรงสู่พระนิพพานเป็นที่สุดด้วยเถิด 

และขอให้ข้าพเจ้าได้พบองค์สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้าบนพระ นิพพานนั้นโดยทันทีด้วยเถิด
ข้อสำคัญของการเข้าพระนิพพาน
คือ จิตจะต้องเกิดอาการเบื่อหน่ายในร่างกาย {ขันธ์5}
อย่าง จริงๆ จัง…
ดังนั้น 
ต้องมีการพิจารณาตัดขันธ์ 5 

พิจารณาถึงความตาย ความทุกข์ทั้งหลาย อยู่เสมอๆ

… พิจารณาบ่อยๆ วันละหลายๆ ครั้งได้ก็จะดีมาก…
แต่เมื่อพิจารณามากเข้าๆ จิตอาจจะเบื่อจนนึกอยากจะฆ่าตัวตาย
ดัง นั้นเราจึงต้องพิจารณาสมทบเข้าไปว่า…
ถึง สังขารร่างกายนี้เป็นทุกข์ น่าเบื่อหน่าย… 

แต่ข้าพเจ้าจะยังคงรักษาธาตุขันธ์นี้ต่อไป เพื่อยังประโยชน์ต่อสรรพชีวิตอื่น 

และ ธำรงไว้ซึ่งพระพุทธศาสนา 

ตราบจนกว่าจะ ถึงอายุขัยของข้าพเจ้าเอง
 
เสร็จแล้ว พยายามพิจารณาทุกสิ่งให้เป็น 

“ธรรมดา” 

ยอมรับสภาพของชีวิตตามความเป็นจริงที่เกิดขึ้น… 

เมื่อใกล้ตายจิตจะมารวมตัวกันเองโดยไม่ต้อง บังคับ… 

เพราะจิตมีความชินกับการที่ จิตเราจับอยู่ที่พระพุทธองค์ และพระนิพพานเสมอ…

ให้เชื่อมั่น ว่า…

ตายเมื่อไหร่เราขึ้นพระนิพพานแน่นอน…

1 ความคิดเห็น: